ซูฮก! มูรินโญ่ ยก กรีลิช มีนิสัยเหมือนแข้งตำนานรายนี้

ข่าวฟุตบอลล่าสุด กุนซือจอมแท็กติก ระบุ ในมุมมองของตนนั้น แจ็ค กรีลิช มีนิสัยกล้าเล่นและขอบอลจากเพื่อนอยู่บ่อยๆ แบบเดียวกับ หลุยส์ ฟิโก้ เลย พร้อมบอกว่า กรีลิช ควรจะได้เป็นตัวจริงในเกมกับ เช็ก ด้วย

  โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ อาแอส โรม่า สโมสรชั้นนำของศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กล่าวยกย่อง แจ็ค กรีลิช กองกลาง แอสตัน วิลล่า และทีมชาติอังกฤษ ว่ามีนิสัยเหมือน หลุยส์ ฟิโก้ ตำนานปีกชาวโปรตุกีส จากการที่มีความกล้าในการเล่นจนมักจะขอบอลจากเพื่อนอยู่บ่อยๆ

กรีลิช ทำผลงานได้โดดเด่นกับ วิลล่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา จนทำให้เขาโดนเรียกติดทัพ "สิงโตคำราม" ชุดสู้ศึก ยูโร 2020 แต่ในนัดแรกที่ชนะ โครเอเชีย 1-0 เขาไม่ได้รับโอกาสลงเล่น ส่วนในนัดสองกับ สกอตแลนด์ เขาก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 63 กว่าที่จะได้รับโอกาสลงสนาม ก่อนที่สุดท้ายทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะทำได้แค่เสมอกับอีกฝ่าย 0-0

มูรินโญ่ เผยว่า "อังกฤษ ดูเหมือนเป็นทีมที่ขี้อายจนไม่กล้าทำบางอย่าง ดังนั้นพวกเขาเลยต้องการ แจ็ค กรีลิช สำหรับเกมกับ สาธารณรัฐเช็ก ในคืนนี้ เขาดูเหมือนเป็นนักเตะที่พร้อมสำหรับรายการใหญ่ๆ แบบนี้อยู่เสมอ เขามีความกล้าหาญที่ดี เขาไม่เคยเล่นเกมระดับถ้วยยุโรปให้กับสโมสรของเขามาก่อนแท้ๆ แต่เขาก็มาเล่นกับทีมชาติในแบบที่ไม่มีทีท่าว่าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น"

"เขากล้าเล่นแบบเสี่ยงๆ เขากล้าที่จะเล่นแบบเดิมพันบางอย่าง ซึ่งบางครั้งเขาก็เสียบอล, บางครั้งก็สร้างโอกาสทำประตูได้, บางครั้งก็เตะคู่แข่ง, บางครั้งก็โดนคู่แข่งไล่เตะ เขาสร้างความสั่นคลอนให้กับคู่แข่งได้ และยังเรียกลูกฟรีคิกได้ด้วย เมื่อคุณได้ลูกฟรีคิกตรงริมเส้นแล้วน่ะคุณก็สามารถโยนบอลไปให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ไทโรน มิงส์, จอห์น สโตนส์ หรือ แฮร์รี่ เคน ลุ้นโขกทำประตูได้ อังกฤษ เป็นทีมที่เล่นลูกเซตพีซได้ดีมากๆ"

"สาเหตุที่ อังกฤษ ดูเป็นทีมที่ไม่กล้าเล่นในเกมกับ สกอตแลนด์ (ในช่วงก่อนที่ กรีลิช จะโดนเปลี่ยนตัวลงมา) มันเป็นเพราะพวกเขาเป็นทีมที่ขาดคุณสมบัติแบบของ กรีลิช ที่จริงผมไม่ชอบเปรียบเทียบนักเตะหรอกนะ และเอาตรงๆ แล้ว หลุยส์ ฟิโก้ ก็อยู่คนละระดับกับเขา แต่ว่า กรีลิช ก็มีนิสัยเหมือน ฟิโก้ ที่ขอบอลอยู่เสมอ ประมาณว่า -ส่งบอลมาให้ฉันเลย เดี๋ยวฉันจะแก้ไขสถานการณ์นี้เอง!-"

"จริงอยู่ว่าฟอร์มของ กรีลิช ไม่ได้ถึงขั้นมหัศจรรย์อะไรนักหลังโดนเปลี่ยนตัวลงมาในเกมกับ สกอตแลนด์ แต่เขาได้จับบอลกี่ครั้งกัน ? อีกฝ่ายทำฟาวล์เขาได้มากแค่ไหน ? เขามีโอกาสได้สร้างจังหวะดวลแบบตัวต่อตัวมากเท่าไหร่กัน ? อังกฤษ ต้องการคุณภาพแบบนั้น"